" ปลูกมะพร้าวกะทิน้ำหอม ให้กะทิฟู หอมหวานมัน " อยากได้กะทิฟู หอม มัน ต้องดูแลยังไง?
- พันธุ์มะพร้าวน้ำหอม สวนบ้านแพ้ว
- 8 ต.ค.
- ยาว 2 นาที
มะพร้าวกะทิน้ำหอม คือ พันธุ์มะพร้าวที่เน้นคุณภาพของน้ำกะทิ
ลูกมะพร้าวจะมี เนื้อขาวนวล น้ำกะทิหนา ฟู หอม และหวานมัน เหมาะสำหรับทำขนมไทย กะทิสด และการขายเชิงการค้า แตกต่างจากมะพร้าวน้ำหอมธรรมดา ซึ่งอาจให้ลูกเยอะกว่า แต่คุณภาพน้ำกะทิไม่เข้มข้นเท่า

ลักษณะสำคัญของมะพร้าวกะทิน้ำหอม:
น้ำกะทิหนา ฟู และหอมมัน
ลูกขนาดกลางถึงใหญ่ เนื้อแน่น สีขาวนวล
มูลค่าการค้า สูง เนื่องจากน้ำกะทิคุณภาพดี
“สำหรับเกษตรกรรุ่นใหม่
🌴 มะพร้าวกะทิน้ำหอมให้ผลตอบแทนสูง น้ำกะทิหนาฟู หอม มัน
หากเริ่มอยาก ปลูกมะพร้าวกะทิน้ำหอม และอยากให้ลูกมีกะทิฟู หอมหวาน ทำอย่างไรมาดูกัน....
มาดู วิธีการปลูกมะพร้าวกะทิน้ำหอมกันครับ
ขั้นตอนการปลูกมะพร้าวกะทิน้ำหอมในหลุม

1️⃣ เตรียมหลุม
ขนาดหลุมประมาณ 60 x 60 x 60 ซม.
ขุดหลุมลึกพอประมาณเพื่อให้รากสามารถวางได้ตรง
ผสมดินกับทราย 20–30% เพื่อระบายน้ำดี
2️⃣ รองก้นหลุม
ใส่ ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก ประมาณ 10–15 กก.
โรยให้ทั่วก้นหลุม แล้วคลุกเคล้ากับดินเล็กน้อย
3️⃣ การลงต้นพันธุ์
เลือก ต้นพันธุ์กะทิน้ำหอมแข็งแรง ใบเขียวสด
วางต้นลงหลุมให้รากกระจายออกเป็นธรรมชาติ
ระวังอย่าให้รากงอหรือทับกัน
4️⃣ กลบหลุม
กลบดินรอบรากให้แน่นเล็กน้อย ไม่ทับรากมากเกินไป
ทำหลุมให้โคนต้นสูงกว่าดินรอบ ๆ เล็กน้อยเพื่อระบายน้ำ
5️⃣ รดน้ำทันที
รดน้ำให้ชุ่มหลุมทันทีหลังปลูก
รดน้ำต่อเนื่องทุก 3–4 วันในช่วงฝนทิ้งช่วง
จุดที่ควรระวัง เมื่อ ปลูกมะพร้าวกะทิน้ำหอม มีอะไรบ้างที่ต้องรับมือและต้องรู้่!!!!
⚠️ จุดที่ควรระวัง ปลูกมะพร้าวกะทิน้ำหอม
1. 🌱 การคัดพันธุ์
ต้องซื้อจาก แหล่งพันธุ์ที่เชื่อถือได้จริง ๆ เพราะในตลาดมีหลายแห่งที่เอาพันธุ์อื่นมาขายปน
ต้นพันธุ์แท้ จะต้องเกิดจากการคัดเลือกจากต้นแม่ที่ให้ลูกเป็น “กะทิ” สม่ำเสมอเท่านั้น
ถ้าพันธุ์ไม่แท้ → จะกลายเป็นมะพร้าวน้ำหอมธรรมดา ผลผลิตไม่เป็น “กะทิ”

2. 🕐 อายุให้ผลและอัตราเป็นกะทิ
เริ่มให้ผล เมื่อปลูกแล้ว ประมาณ 3-5 ปี
ลูกมะพร้าวในแต่ละทะลายจะมี เพียงบางลูกเท่านั้น ที่เป็น “กะทิ” (ประมาณ 10–30%)
ต้องทำใจไว้ว่า ไม่ใช่ทุกลูกจะเป็นกะทิ
3. 💧 การให้น้ำ
ต้องการน้ำมากกว่ามะพร้าวทั่วไป เพราะลูกเยอะและกะทิต้องการความชุ่มชื้น
ควรมี ระบบน้ำหยดหรือน้ำพุ่ง ที่ให้น้ำสม่ำเสมอทุกวัน โดยเฉพาะหน้าแล้ง

🥥 การให้น้ำมะพร้าวกะทิน้ำหอม
1️⃣ หลังปลูกใหม่ (0–6 เดือน)
รดน้ำทันทีหลังปลูก ให้ดินรอบโคนชุ่มชื้น
รดน้ำ ทุก 3–4 วัน หากฝนไม่ตก
ปริมาณน้ำประมาณ 20–30 ลิตร/ต้น/ครั้ง ขึ้นอยู่กับสภาพดินและอากาศ
หลีกเลี่ยงน้ำท่วมขัง → รากอาจเน่า
2️⃣ ต้นอ่อน (6–12 เดือน)
รดน้ำ 2–3 ครั้ง/สัปดาห์
หากฝนตกเพียงพอ ลดการรดน้ำลง
ใช้ ร่องน้ำหรือสปริงเกอร์ เพื่อให้ดินรอบโคนชุ่มแต่ไม่แฉะ
3️⃣ ต้นเริ่มเจริญเติบโตและเริ่มออกทะลาย (1–3 ปี)
รดน้ำ 1–2 ครั้ง/สัปดาห์
เพิ่มน้ำช่วง ออกทะลายและสร้างลูก → ช่วยกะทิหวานและฟู
รดน้ำลึกเพื่อให้รากหากิ่งลึกและแข็งแรง
4️⃣ เทคนิคเพิ่มเติม
คลุมโคนต้นด้วยฟางหรือหญ้าแห้ง → ลดการระเหยน้ำ
ตรวจดิน ให้แน่ใจว่าระบายน้ำดี
หากสวนอยู่พื้นที่แล้งจัด → พิจารณาติดตั้งระบบ น้ำหยดหรือสปริงเกอร์อัตโนมัติ
หลีกเลี่ยงรดน้ำมากเกินไป → อาจทำให้รากเน่าและกะทิไม่หวาน
💡 เคล็ดลับกะทิฟูและหวาน
รดน้ำสม่ำเสมอ ก่อนออกทะลายและช่วงลูกอายุ 6–8 เดือน
ผสมปุ๋ยละลายน้ำและธาตุรองในการรดน้ำบางครั้ง → เพิ่มการเจริญเติบโตของใบและกะทิ

4. 🍃 การให้ปุ๋ยและอินทรีย์วัตถุ
🥥 สูตรบำรุงเร่งกะทิให้ฟูและหวานมัน
1️⃣ ปุ๋ยหลัก (N-P-K)
ไนโตรเจน (N) → ส่งเสริมการเจริญเติบโตของใบและยอด
ฟอสฟอรัส (P) → ช่วยให้รากแข็งแรง และระบบขับธาตุอาหารดี
โพแทสเซียม (K) → สำคัญที่สุดสำหรับกะทิและรสหวาน
ตัวอย่างสูตรสำหรับมะพร้าวกะทิ:
ปุ๋ยสูตร 13-13-21 หรือ 8-24-24
ปริมาณ: 2–3 กิโลกรัมต่อต้น / ทุก 2–3 เดือน
ต้องบำรุงดินดีมาก โดยเฉพาะ โพแทสเซียม (K) และ แคลเซียม-แมกนีเซียม (Ca-Mg)
ถ้าขาดอาหาร → ลูกจะเล็ก ไม่เป็นกะทิ หรือกะทิไม่ฟู
💡 เทคนิค: ให้ โพแทสเซียมสูงก่อนออกทะลาย 1 เดือน เพื่อกระตุ้นน้ำตาลในกะทิ

🥥 ตารางบำรุงมะพร้าวกะทิน้ำหอม (ปีต่อปี)
ปี/อายุต้น | กิจกรรมหลัก | ปุ๋ย/ธาตุอาหาร | วิธีใช้ | เทคนิคเสริม |
ปี 1 (ต้นกล้า 6–12 เดือน) | ปลูก + รดน้ำสม่ำเสมอ | ปุ๋ยคอก/หมัก 10–15 กก. / ต้น | รองก้นหลุม + ผสมดินปลูก | รดน้ำทุกวัน/3–4 วันครั้ง |
ปี 2 (ต้นอายุ 1–2 ปี) | ใบโตแข็งแรง | ปุ๋ย N-P-K 13-13-21 1–2 กก. /ต้น/3 เดือน + Mg 200 กรัม + Ca 300 กรัม | ราดรอบโคนต้น | ตัดใบแห้ง+ดูแลศัตรูพืช |
ปี 3 (ต้นอายุ 2–3 ปี) | รากแข็งแรง, เตรียมทะลาย | N-P-K 2 กก. /ต้น + Mg 200–300 กรัม + B 20 กรัม + Zn 20 กรัม | ราดโคนต้นทุก 3 เดือน | ตรวจศัตรูพืชและโรค |
ปี 4 (ต้นอายุ 3–4 ปี) | เริ่มให้ผลทะลาย | N-P-K 2–3 กก. /ต้น + Mg, Ca, B, Zn ตามข้างต้น | ราดโคนต้น 3 เดือน/ครั้ง | ตัดทะลายเก่า, รดน้ำสม่ำเสมอ |
ปี 5 (ต้นอายุ 4–5 ปี) | ลูกกะทิเต็มที่ | N-P-K 2–3 กก. /ต้น + Mg, Ca, B, Zn + ปุ๋ยคอก 10–15 กก. /ปี | ราดโคนต้น + ฉีดใบ K 2–3% + Mg 1–1.5% + B 0.1% | รดน้ำเพิ่มช่วงออกทะลาย, เก็บลูก 7–8 เดือน |
ปี 6 (ต้นอายุ 5–6 ปี) | ผลผลิตสูงสุด | ตามปี 5 | ราดโคนต้น + ฉีดใบ | ทะลายไม่เกิน 3–4 พวง/ปี, ตรวจศัตรูพืช |
ตัวอย่าง “ตารางบำรุงต่อปี” สำหรับต้นอายุ 4–5 ปี
เดือน | ปุ๋ยหลัก (N-P-K) | ปุ๋ยรอง/จุลธาตุ | เทคนิคเสริม |
ม.ค. | 2 กก. 13-13-21 | Mg 200 กรัม, Ca 300 กรัม | รดน้ำสม่ำเสมอ |
มี.ค. | 2 กก. 13-13-21 | B 20 กรัม, Zn 20 กรัม | ตัดทะลายเก่า |
มิ.ย. | 2 กก. 13-13-21 | Mg 200 กรัม | เพิ่มน้ำช่วงร้อน |
ก.ย. | 2 กก. 13-13-21 | Ca 300 กรัม | รดน้ำสม่ำเสมอ |
ธ.ค. | 2 กก. 13-13-21 | B 20 กรัม | ตรวจยอดด้วง |
5. 🐛 ศัตรูพืช
ต้องระวัง “ด้วงงวง” และ “ด้วงแรด” เป็นพิเศษ เพราะชอบต้นอ่อน
ใช้วิธีผสม เช่น
วางกับดักฟีโรโมน
ใช้เชื้อราขาวเมตาไรเซียม
ตรวจยอดประจำ
6. ☀️ แสงและสภาพแวดล้อม
ต้องปลูกในพื้นที่มีแดดจัด น้ำไม่ขัง
ดินเหนียวปนทราย หรือดินร่วน ระบายน้ำดี
ถ้าพื้นที่น้ำท่วมขังนาน → รากจะเน่า ต้นชะงัก
7. 🧑🌾 การจัดการหลังให้ผล
เนื่องจากต้นจะใช้พลังมากในการสร้างกะทิ ควร พักต้นด้วยการตัดทะลายบ้าง
ช่วยยืดอายุการให้ผลของต้น
💡 ข้อคิดสำคัญ
คุณภาพมากกว่าปริมาณ – ทะลายไม่จำเป็นต้องเยอะ แต่เน้นกะทิฟู หอม และหวานมัน
ดูแลต่อเนื่องและรอบคอบ – น้ำ ปุ๋ย และการฉีดธาตุรองต้องสม่ำเสมอ
สังเกตและปรับปรุง – ศัตรูพืชหรือโรคเล็กน้อย หากแก้เร็วจะไม่เสียผลผลิต
เวลาและความอดทน – กะทิฟู หอม และหวานมัน ต้องใช้การดูแลอย่างต่อเนื่องในทุกขั้นตอน
หวังว่าเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ จะได้รับความรู้เบื้องต้น สำหรับ การปลูกมะพร้าวกะทิน้ำหอม กันนะครับ
สนใจติดต่อปรึกษาทางสวน
0882858638
หรือ แอดไลน์ @coconutbanpheao
ความคิดเห็น